Wednesday, March 19, 2014

Review: Kanban 101 by Kamon&Kulawat (2)

มาต่อกันในส่วนของการบรรยายเกี๋ยวกับ Kanban

เริ่มกันตั้งแต่จุดกำเนิดของมัน ให้กำเนิดโดย David Anderson ชือเดิมคือ Lean software development แต่ชื่อ Kanban ขายดีกว่า โดยสาเหตุแกต้องคิด Kanban ออกมาก็คือ เขาเอา Agile ไปใช้กับทีมหนึ่งแล้วมันได้ผล แต่พอเอาไปใช้กับทีมอื่นแล้วมันไม่ได้ผล

สาเหตุสำคัญอย่างหนึ่งคือมันมี "แรงต้าน"

ก็เลยไปคิดวิธีทำ Agile ยังไงให้มันไม่เกิดแรงต้าน มองไปมองมาก็ไปเจอกับวิธีการของ Toyota แล้วก็เกิดไอเดียว่า มันน่าจะเอามาใช้กับการทำ software ได้นะ
แล้วก็เริ่มจากการคุยกัน Community เล็กๆ จนกระทั่งเปิดตัวออกมาเป็น Kanban ในที่สุด

เพิ่งจะมีหนังสือออกมาในปี 2010 นี่เองครับไปดูได้ ที่นี่

มี Principle 4 ข้อ
1.start with what you do know อะไรที่ทำกันอยู่ก็ทำต่อไปเหมือนเดิม
2.agree to pursue incremental evolutionary change  ตกลงกันว่าเราจะค่อยๆปรับวิธีการทำงาน
3.initially, respect current roles, responsibilities & job titles เคารพในตำแหน่ง หน้าที่ และ ความรับผิดชอบ ของทุกๆคน
4.encourage acts of leadership at all levels in your organization ทำให้เกิดภาวะผู้นำในทุกระดับ
และ Pracitce อีก6ข้อ
1. Visualize the workflow
2. Limit WIP
3. Manage Flow
4. Make Process Policies Explicit

6. Implement Feedback loops
5. Improve Collaboratively (using models & the scientific method)


คุณปอมเขียนเรื่องนี้ไว้แล้วครับ ไปอ่านกันได้ ที่นี่

มาเริ่มที่ข้อแรก Visualize the workflow ก็คือการเอางานที่เราทำๆกันอยู่เนี่ยให้มามองเห็นเป็นภาพ วิธีที่ง่ายที่สุดก้คือทำเป็น Board แต่เค้าไม่ได้บังคับว่าต้องทำBoardนะ ถ้ามีวิธีการอื่นในการVisualizeได้ก็ทำครับ
ใน slide มีการนำ Board จากหลายๆที่มาให้เราดูเป็นตัวอย่าง แต่ส่วนใหญ่จะหน้าตาคล้ายๆกันเป็น Kanban board แบบนี้(รูปหากิน ฮิฮิ) ซึ่งบางทีมันจะมีขนาดใหญ่มาก จนเรียกว่า card wall เลยก็ได้


บางที่ก็มี spare ไว้สำหรับ support หรืองานด่วนที่มีโอกาสวิ่งเข้ามา (บางท่านเรียกมันว่า "งานฟ้าประทาน")

หรือ Board ใหญ่สำหรับองค์กรที่มี Product หลายๆตัว ( มี board แบบด้านบน ของแต่ละทีมอีกที)

พอดียังไม่ได้ Slide จากทางผู้สอน เลยต้องวาดขึ้นใหม่ มันอาจจะดูมั่วๆ ต้องขออภัยครับ ถ้าได้มาแล้วจะเอามาอัพเดท

เสร็จแล้วก็ลองกำหนดจำนวน WIP ที่รับได้ในแต่ละ Roles ซึ่งถ้าไม่ได้เล่นเกมไม้ขีดมาคงไม่เข้าใจว่ากำหนดแล้วมันดียังไง อันนี้เสริมหน่อย ผมเคยไปฟังคุณกรพูดเกี่ยวกับ Kanban ในงาน TPSE มาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งบอกตรงๆว่าไม่เข้าใจเลยสักนิดตรง WIP เนี่ยล่ะ จะมีไปทำไม ฟังอย่างเดียวไม่เห็นภาพจริงๆครับ

อีกเรื่องที่น่าสนใจก็คือการกำหนดรอบการทำงาน ซึ่งไม่ได้กำหนดอะไรเลย ขึ้นอยู่กับทีมจริงๆ
จะใช้ Sprint แบบ Scrum ก็ได้ (Kanban ล้อมเอาไว้หมดแล้ว)
หรือจะทำแบบ On demand คือ ทีมอยากจะ planning, restrospective, review, release กันตอนไหนก็ได้ ทำทุกวันก็ได้ ไม่ผิดกติกา

สุดท้ายแล้ว (เพราะนึกอะไรไม่ออกแล้ว) ก็คือการหา Right WIP limit ครับ ค่อยๆปรับกันไป

เสร็จแล้วก็ถึงเวลาพักเที่ยงครับ มือเที่ยงก็เป็นข้างกล่องทั่วไป ไม่ได้อลังการอะไร รสชาติใช้ได้

ครึ่งทางแล้วครับ จบมันดื้อๆอย่างนี้แหละ :)

No comments:

Post a Comment