มันก็เป็นการ meeting รูปแบบหนึ่งแหละครับ ใน Official site บอกว่า มันคือ structured, but agenda-less meeting
เริ่มจากการให้ผู้ที่เข้าร่วมทุกคนเขียนหัวข้อขึ้นมา ใส่ card แล้วก็เอามาแปะๆไว้ แล้วก็ใช้เวลาอีกเล็กน้อยให้ทุกคนอธิบายหัวข้อของตัวเองว่ามันคืออะไรแน่
เสร็จแล้วก็ทำ dot vote โดยที่แต่ละคนโหวตได้ 2 ครั้ง จะโหวตเรื่องของตัวเองหรือโหวตของคนอื่นก็ได้
พอโหวตเสร็จแล้ว ก็เอามาจัด priority ตามหัวข้อที่มีคะแนนโหวตมากที่สุด แล้วก็เริ่มคุยกัน
เมื่อเราเริ่มคุยกัน เราจะมีเวลา 5 นาที ในการคุยหัวข้อนั้น (มี facilitator คอยจับเวลา) ก็คุยกันไปครับ (ยอมรับเลยว่าเลเวลผมมันน้อยมากจริงๆ หาช่องพูดไม่ค่อยได้เลย เศร้า T-T) ถ้าหมดเวลาแล้วแต่ยังพูดไม่จบ ก็พูดต่อให้จบได้
พอหมดเวลาก็ให้สมาชิกมาโหวตอีกว่าจะคุยเรื่องนี้กันต่อมั้ย
โดยมีทางเลือก สามอย่าง คือ
Y = คุยต่อ
N = ไม่เอาละ
O = ยังไงก็ได้ (No vote) อันนี้โดนติงมาว่าอย่า no vote มาก ทำตัวไม่ถูก ก็น่าคิดนะฮะ ถ้า No vote กันหมดแล้วจะเอาไงต่อ ประเทศชาติจะเดินต่อไปยังไง ต้องปฏิรูปก่อนมั้ย ... เอิ่ม พอดีกว่า
เอาเป็นว่า ถ้า Y เยอะ ก็คุยเรื่องเดิมต่ออีก 5 นาที ถ้า N เยอะ ก็ เอาเรื่องต่อไปมาคุย
ทำอย่างนี้ไปจนหมดเวลา ซึ่งกำหนดไว้ที่ครึ่งชั่วโมง
ในตอนท้าย คุณนนท์ยังบอกอีกว่า ที่เราทำกันไปเป็น Lean coffee แบบมาตรฐาน สามารถนำไปปรับให้เข้ากับองค์กรณ์หรือทีมของตัวเองได้
เสร็จแล้วก็มาทำ Retrospect กันหน่อย อันนี้ส่วนตัวของผมนะ มีเพิ่มเติมนิดหน่อยครับ ตอนนั้นคิดไ่ม่ทัน แหะๆ
Good
- มีเรื่องที่จะคุยชัดเจน มีเตรียมหัวข้อมาก่อน
- Dead air น้อยมาก อาจจะเป็นเพราะสมาชิกแต่ละท่านเลเวลสูงๆกันทั้งนั้นเลย
ฺBad
- มีหัวข้อที่ไม่ได้คุยเยอะ คนที่หัวข้อไม่ได้รับการโหวตอาจจะน้อยใจได้ :)
- อุปกรณ์กับเน็ตผมกากมาก ทั้งหลุดทั้งส่งเสียงรบกวน
- ผมพูดน้อยมาก
Try ตอนนั้นคิดไม่ทัน เลยบอกไปว่าไม่มี
- ได้คุยกับพี่มุ้ยต่อหลังจากนั้น น่าจะเอาหัวข้อที่น่าสนใจ มาคุยต่อในกรุ๊ป
- ใจกล้า หน้าด้าน หาช่องในการพูดบ้าง
หมดละครับ ขอบคุณคุณนนท์กับเพื่อนๆที่มาช่วยกันแชร์ครับ ผมนี่ไม่ค่อยได้แชร์อะไรเลย เฮ้อ
Official site http://leancoffee.org/
No comments:
Post a Comment